โบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) ลดริ้วรอย หน้าเรียว

โบท็อกคืออะไร?

โบท็อกมาจาก “Botulinum Toxin A” เป็นโปรตีนที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium Botulinum ซึ่งเมื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อ จะออกฤทธิ์ที่ระบบปลายเส้นประสาท ที่ควบคุมการทำงานกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ทำงานน้อยลง มีผลทำให้ช่วยลดริ้วรอยและขนาดของกล้ามเนื้อนั่นเอง

โบท็อกทำงานอย่างไร? ออกฤทธิ์อย่างไร?

  • เมื่อเราฉีดโบท็อกเข้าไปในบริเวณไหน โบท็อกจะไปแย่งจับกับสารสื่อประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ (สารสื่อประสาทเป็นตัวสั่งการให้กล้ามเนื้อทำงาน )ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นหดตัวไม่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ริ้วรอยจึงลดลง
  • ร่างกายจะสร้างตัวรับที่จับกับสารสื่อประสาทขึ้นมาใหม่ในเวลา 4-6เดือน เพื่อจับกับกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อได้กลับมาทำงานได้ปกติ (เสมือนว่าโบท็อกที่ฉีดจะคลายฤทธิ์ไป)ทำให้กล้ามเนื้อกลับมาหดตัวเหมือนเดิม ริ้วรอยจะเริ่มกลับมา
  • การดื่มแอลกอฮอล์ ผิวที่แห้ง จะทำให้โบท็อกคลายตัวเร็วขึ้น

โบท็อกเป็นตัวยาที่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามอย่างแพร่หลาย เรียกได้ว่าเป็นยาสามัญประจำคลินิกเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ลดริ้วรอยได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา ขมวดคิ้ว เมื่อฉีดโบท็อกแล้วทำให้ดูย้อนวัย อ่อนเยาว์ขึ้นมากและผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายเดือนอีกด้วยค่ะ

โบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ริ้วรอยบนใบหน้า เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆทำงานมากหรือทำงานมานาน เช่นการแสดงสีหน้าหรืออารมณ์บ่อยๆ เกิดเป็นริ้วรอยหน้าผาก ขมวดคิ้ว หางตา  เมื่อฉีดโบท็อก กล้ามเนื้อมัดนั้นๆทำทำงานลดลง คลายตัวมากขึ้น

การฉีดลดริ้วรอยอาศัยความเชี่ยวชาญและความละเอียด ไม่เพียงแค่เป็นการลดริ้วรอยแต่ยังสามารถปรับอารมณ์ของใบหน้า ทรงคิ้วอีกด้วย  ทำให้ตาดูโตขึ้น ให้ดูสวยเฉี่ยวขึ้นได้ 

บางคนชอบแบบธรรมาชาติ บางคนชอบแบบตึงมาก มีรายละเอียดเล็กๆซ่อนอยู่ 

การฉีดโบท็อกเพื่อลดขนาดกราม เป็นที่นิยมเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก เหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่ ใช้โบท็อกประมาณ30-60ยูนิต 

ต้องควรระวัง ไม่ฉีดเกินขอบเขตของกล้ามเนื้อกราม เพราะจะไปถูกกล้ามเนื้อมัดข้างเคียง ทำให้ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยวได้ และฉีดให้ถึงกล้ามเนื้อไม่เช่นนั้นกล้ามเนื้อกรามจะป่องออกมา

เป็นการใช้โบท็อกที่มีอัตราส่วนความเข้มข้นพิเศษเพื่อยกกระชับ เพื่อการกระตุ้นให้ fibroblast (เซลล์บนในหน้า)หดตัวและสร้างคอลลาเจนออกมาเพิ่มขึ้น ทำให้หน้ายกขึ้น

และเป็นการลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าลง ให้อ่อนแรง หน้าจึงยกกระชับขึ้นไปใช้โบท็อกประมาณ30-80ยูนิต

  • โบท็อกกรอบหน้า ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
  • โบท็อกลดโหนแก้ม ทำให้โหนกแก้มลดลง 
  • คอเรียวยาวระหงส์  ให้คอเรียวยาวเขื่อมต่อกับกรอบหน้าชัด

เป็นโบท็อกที่เติมแล้วสร้างความลงตัวให้ใบหน้าได้มากขึ้น การยกคิ้ว ปรับทรงคิ้วให้ดูหวานหรือดูสวยเฉี่ยวขึ้นได้ คลายคางให้คางที่ย่นยาวขึ้นได้หน้าเรียวขึ้นเล็กน้อย  ยกมุมปากให้หน้าหวาน ดูยิ้มแย้มมากขึ้น สามารถปรับร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์คางและฟิลเลอร์ยกมุมปากได้

ลดการทำงานของกล้ามเนื้อปีกจมูก ทำให้ปีกจมูกเล็กลง แกนจมูกชัดขึ้นสันจมูกชัดขึ้น

เช็คว่าส่วนที่ใหญ่บริเวณน่องเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน โดยการเขย่งแล้วตรวจสอบดู 

การฉีดลดน่องต้องมีศิลปะในการเลือกตำแหน่งฉีด เพื่อให้ได้รูปร่างน่องที่ต้องการ ไม่ใช่ฉีดทุกส่วนเพราะจะเป็นการใช้โบท็อกเกินความจำเป็น ใช้โบท็อกประมาณ 100-200ยูนิต

โบท็อกสามารถลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้ผลิตเหงื่อได้น้อยลง ลดกลิ่นตัว สำหรับผู้ที่อยู่ในห้องแอร์แล้วเหงื่อยังออกชุ่มรักแร้ แนะนำมารักษาด้วยการฉีด โบท็อกและยังช่วยให้รักแร้เรียบเนียนมั่นใจขึ้นอีกด้วยค่ะ 

และยังสมารถฉีดตื้นๆเพื่อกระชับรูขุมขนบริเวณข้างแก้ม ช่วยให้หน้าเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? 

1.แพทย์ที่ฉีดต้องมีประสบการณ์ เพราะต้องฉีดให้ตรงกับมัดกล้ามเนื้อที่ต้องการปรับ รู้ว่าตำแหน่งใดฉีดได้ ตำแหน่งใดฉีดไม่ได้ ถ้าฉีดผิดบริเวณอาจทำให้เกิด หนังตาตา มุมปากตก ยิ้มไม่เท่ากันได้ และต้องรอจนกว่าbotulinum toxinจะหมดฤทธิ์ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนทีเดียว และต้องฉีดในปริมาณที่เหมาะสมไม่เช่นนั้นจะดูไม่เป็นธรรมชาติดูแข็งเกินไป

หลังฉีดโบท็อก1-2สัปดาห์ ที่ไครโอคลินิกจะมีการนัดติดตามผลดูว่าได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการไหม ถ้ารูสึกตรงไหนยังไม่ตึง อยากให้คิ้วยกกว่านี้ ยังเหลือกล้ามเนื้อกราม สามารถฉีดเพิ่มเติมให้ได้ค่ะ

2.มั่นใจว่าใช้โบท็อกแท้ ผ่านอ..และไม่หมดอายุ

ที่ไครโอคลินิกเราแกะกล่องให้ดูก่อนทุกครั้ง สแกนQRCode ข้างกล่องเพื่อให้เกิดความมั่นใจ

อันตรายจะเกิดเมื่อใช้โบท็อปปลอม โบหิ้ว เพราะเสี่ยงมากกับการเกิดการดื้อโบท็อก หากดื้อโบท็อกแล้วแม้ว่าจะฉีดโบท็อกจริงก็จะไม่ออกฤทธิ์ ก็จะต้องพักการฉีดโบท็อกไปอย่างน้อย3-4ปีเลยทีเดียว

โบท็อกแท้ที่ได้มาตรฐาน สามารถสลายเองได้ 100% ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัยสูงปัจจุบันมีโบท็อกปลอมเป็นจำนวนมาก โบท็อกหิ้ว ที่อาจเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมก็มีผลต่อคุณภาพ

สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการฉีดโบท็อกหรือไม่สามารถปรึกษาคุณหมอก่อนได้ค่ะ

ฉีดโบท็อก ยี่ห้อไหนดี?โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกกันอย่างไร

โบท็อกของแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โบท็อกปัจจุบันมีหลายยี่ห้อจากหลายประเทศ ระยะเวลาการออกฤทธิ์ก็ไม่เท่ากันค่ะ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ กรรมวิธีการผลิต , ชนิด protein complex และที่มีผลทำให้โบท็อกแตกต่างกันมากที่สุดคือ ขนาดของ molecule complex ค่ะ เพราะจะกำหนดการกระจายตัวของโบท็อก

โบท็อกที่กระจายตัวได้แคบ เช่น Allergan โบอเมริกา, กลุ่มโบเกาหลี จะสามารถควบคุมการกระจายยาได้ดี เหมาะกับการฉีดกล้ามเนื้อมัดเล็ก โบท็อกไม่กระจายไปสู่กล้ามเนื้อมัดที่ไม่ต้องการ แพทย์ผู้ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญ และถ้าใช้ปริมาณยามากเกินไปก็จะแข็งตึงไม่เป็นธรรมชาติ 

โบท็อกที่กระจายตัวได้กว้าง เช่น Dysport โบอังกฤษ เหมาะกับกับบริเวณที่กว้าง การฉีดLiftกรอบหน้า บริเวณลำคอ การฉีดการลดน่อง จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เห็นผลเร็ว แต่ถ้านำไปฉีดบริเวณกล้ามเนื้อมัดเล็กต้องใ้ช้ปริมาณและทิศทางที่แม่นยำเพื่อไม่ให้ยากระจายไปในกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ ไม่ให้เกิดตาตก ปากเบี้ยว 

โบท็อกอเมริกา Botox Allergan 

จุดเด่นคือ

  • โบท็อกที่มีงานวิจัยยาวนานสุด พัฒนาให้โอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด
  • การกระจายตัวของยาแคบที่สุด ให้การรักษาที่แม่นยำ แต่การฉีดให้ดูเป็นธรรมชาติต้องอาศัยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
  • ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ค่อนข้างยาวนานกว่ายี่ห้ออื่น

โบท็อกเยอรมัน Botox Xeomin 

จุดเด่นคือ

  • สำหรับเคสดื้อยาที่หยุดโบท็อกมา2-3ปี แล้วจะกลับมาฉีดโบท็อกใหม่แนะนำโบเยอรมัน
  • การกระจายตัวของยาอยู่กลางๆ จึงได้ความเป็นธรรมาชาติและไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดผลจากยากระจายไปกล้ามเนื้อมัดอื่น

โบท็อกอังกฤษ Botox Dysport

จุดเด่นคือ

  • โบท็อกที่มีการกระจายยามากที่สุด เหมาะกับการฉีดบริเวณ
  • กว้างเช่นการฉีดเพื่อยกกระชับ Lifting กรอบหน้าชัด ,คอเรียวยาว ลดน่อง ,ลดต้นแขน,ลดกลิ่นเหงื่อ
  • ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ
  • ออกฤทธิ์ได้รวดเร็วที่สุด
  • แต่ต้องระมัดระวังเพราะยากระจายตัวได้ดี ถ้าฉีดกล้ามเนื้อมัดเล็ก แล้วไม่ชำนาญอาจเกิดไปโดยกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ ทำให้เกิดหนังตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยวได้

โบท็อกเกาหลี Aestox 

จุดเด่น

  • ราคาคุ้มค่า ยาบริสุทธิ์99.5%
  • มีความเป็นธรรมชาติไม่แข็งตึงจนเกินไป
  • อยู่นานน้อยกว่าโบอเมริกา ประมาณ2เดือน แต่ราคาถูกกว่าเท่าตัว
  • ระมัดระวังยาหิ้ว ยาปลอม

โบท็อกเกาหลี Nabota 

จุดเด่น

  • ราคาคุ้มค่า ได้ผลลัพธ์ดี 
  • ผ่านu.s.FDAของอเมริกาด้วย
  • ออกฤทธิ์เร็วกว่าโบเกาหลีตัวอื่น
  • ระมัดระวังยาหิ้ว ยาปลอม

ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล? ฉีดโบท็อกครั้งนึงอยู่ได้นานแค่ไหน?

การออกฤทธิ์ขึ้นกับยี่ห้อของโบท็อก Dysport โบท็อกอังกฤษ ออกฤทธิ์ภายใน1วัน  Nabota Aestox ออกฤทธิ์ ประมาณ 3-5วัน Xeomin Allergan ออกฤทธิ์ประมาณ 7 วัน

ฉีดโบท็อกครั้งนึงอยู่นานเท่าไหร่ขึ้นกับชนิดของโบท็อก  โบเกาหลี อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
โบอเมริกา เยอรมัน อยู่ได้นานประมาณ 5-7 เดือน  แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยเหล่านี้ด้วยเช่น 

ปริมาณโบท็อกที่ฉีด ผิวที่แห้งริ้วรอยจะกลับมาได้ไวกว่า ดื่มแอลกอฮอล์ทำให้โบท็อกหมดฤทธิ์ได้เร็วขึ้น

โบท็อกฉีดได้ถี่แค่ไหน?

โบท็อกสามารถฉีดซ้ำได้ทุก 4-6 เดือน แต่ไม่ควรฉีดถี่เกินกว่า3 เดือน เพราะจะเพิ่มโอกาสในการดื้อโบท็อก เวลาฉีดโบท็อกแนะนำให้ฉีดโบท็อกรอบเดียวเช่นริ้วรอย กราม กรอบหน้า ถ้าต้องการทำให้วางแผนทำพร้อมกันจะดีกว่าทำห่างกันครั้งละ 1-2 เดือน

ดื้อโบท็อกคืออะไร?เกิดจากอะไร?แก้ไขยังไง?

  • การดื้อโบท็อกซ์คือการที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกหลังฉีด คือฉีดแล้วไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ริ้วรอยไม่หายไปเลย ขนาดกรามไม่ลดเลย 
  • เกิดจากการที่ใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว หรือมีการฉีดโบท็อกถี่มากเกินไป จำนวนต่อครั้งมากเกินไป  จนร่างกายเกิดจดจำโมเลกุลของโบท็อกได้ ทำให้โบท็อกไม่สามารถออกฤทธิ์ แม้ว่าจะฉีดด้วยโบท็อกจริงหรือปลอมก็ตาม
  • ถ้าสงสัยว่าจะมีการดื้อโบท็อกให้เริ่มจากการลองเปลี่ยนยี่ห้อของโบท็อกก่อน เพราะอาจจะไม่ได้ดื้อจากbotulinum toxin typeA แต่ดื้อเพราะโปรตีนองค์ประกอบ ซึ่งแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน 
  • ถ้าเปลี่ยนยี่ห้อแล้วยังไม่เห็นผล แนะนำให้หยุดฉีดโบท็อก2-3ปี เพื่อให้ร่างกายลืมการจดจำโบท็อกไปก่อน แล้วค่อยกลับมาฉีดซ้ำ(แนะนำกลับมาฉีดBotox Xeomin) 
  • อย่างไรก็ดีการเลือกฉีดโบท็อกกับที่ที่ไว้วางใจได้ มีมาตราฐาน มีความเชี่ยวชาญ ก็จะไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะดื้อโบท็อก

(อ่านต่อบทความ ฉีดโบท็อกไม่เห็นผล ทำไงดี)

จำเป็นต้องฉีดโบท็อกไปตลอดไหม?

หลายคนกลัวว่า ถ้าหยุดฉีดโบทอกแล้วจะทำให้หน้าเหี่ยวยิ่งกว่าเดิม จากการวิจัยพบว่าคนที่มีการฉีดโบทอกเรื่อยๆ ผิวจะละเอียดขึ้น ริ้วรอยน้อยลง มากกว่าคนที่ไม่ได้ฉีดโบท็อก และเมื่อหยุดฉีดโบท็อกริ้วรอยจะค่อยๆกลับมาแต่ไม่มากเท่าเดิม จึงไม่ต้องกังวลที่จะเริ่มใช้โบท็อก

(อ่านต่อบทความ จำเป็นต้องฉีดโบท็อกตลอดไหม?)

การดูแลหลังฉีดโบท็อก?

มีคำถาม ไขข้อสงสัย?

เราดูแลทั้งเรื่องความงาม การปรับรูปหน้า การให้วิตามินเฉพาะบุคคล รวมถึงการตรวจสุขภาพเชิงชะลอวัย การปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงการใช้เซลล์บำบัด placenta และ stem cell

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า