Chrio Cell (MSCs) ฟื้นฟูร่างกายด้วยเซลล์ต้นกำเนิด
Chrio Cells (MSCs)
Chrio Cells เป็นบริการยอดฮิตของไครโอคลินิก เป็นการใช้เซลล์ในการซ่อมแซมเซลล์ (เซลล์บำบัด) เป็นวิธีที่เลียนแบบธรรมชาติ และปลอดภัย ดูแลโดยแพทย์ชะลอวัย
Chrio Cells (MSCs) คืออะไร?
Chrio Cells คือเซลล์ต้นกำเนิด (MSCs) ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ ที่สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์ใดก็ได้ โดยจะแบ่งตัวและพัฒนาเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ได้เกือบทุกชนิดในร่างกาย ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและสารเคมีที่ส่งไปถึงสเต็มเซลล์นั้นๆ เช่น เปลี่ยนเป็นเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวดี สร้างคอลลาเจนได้เพิ่มขึ้นเปลี่ยนเป็นเซลล์สมอง หัวใจ กล้ามเนื้อ และเซลล์เม็ดเลือด เปลี่ยนเป็นเซลล์ผนังหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดงอกใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยส่งผ่านส่วนประกอบของเซลทำให้เซลล์ตับได้รับการฟื้นฟูในโรคตับแข็ง
ทำไมเราต้องใช้ Chrio Cells (MSCs) ในการชะลอวัย
ในปัจจุบันเราพบปัญหาแก่ก่อนวัย คุณภาพชีวิตที่ลดลง ค่อนข้างมาก เนื่องจากการกิน การนอนและสภาพอากาศที่มีมลพิษทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระทำลายเซลล์และทำให้เซลล์แก่ ไม่สามารถทำงานหลั่งสารต่างๆได้อย่างเต็มที่ และเกิดความเสื่อมก่อนวัยอันควร เช่น โรคสมองเสื่อม การอักเสบที่หลอดเลือดทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ขับสารพิษที่มากเกินไปของตับ ลำไส้ ทำให้เกิดการอักเสบและก่อให้เกิดมะเร็งได้
เราจึงควรเพิ่มสเต็มเซลล์ในร่างกายผ่าน การกินอาหารที่ดี การออกกำลังกาย การนอนหลับอย่างเพียงพอ การสร้างอารมณ์ดี ไม่เครียด
วิธีเหล่านี้สามารถช่วยในการชะลอวัยได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เซลล์ต้นกำเนิดในร่างกายของเราจะลดลงเรื่อยๆ อายุ 30 ปี ลดเหลือ 25% อายุ 60 ปี ลดเหลือเพียง 5% ทำให้ไม่พอกับการสร้างหรือซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย ก่อให้เกิดความชรา ไม่กระปรี้กระเปร่าและอาการป่วยต่างๆตามมา
จึงมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมโดยนำเอาเซลล์มาช่วยในการรักษาซ่อมแซมแซมเซลล์ฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อให้มีปริมาณเซลล์ต้นกำเนิดที่มากพอที่จะช่วยชะลอความเสื่อมและซ่อมแซมเซลล์ที่มีการเสียหายคืนความอ่อนเยาว์และคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น
หลักการทำงานของ Chrio Cells (MSCs)
เมื่อเราฉีดเซลล์ต้นกำเนิด ( MSCs) ไปส่วนที่ต้องการซ่อมแซม เช่น ฉีดเข้าผิวหน้า ฉีดเข้าข้อเข่า หรือฉีดเข้าสู่เส้นเลือดเพื่อไปยังอวัยวะภายใน เช่น หลอดเลือด ตับ ไต หัวใจ ปอด ลำไส้ กระดูก
เซลล์ต้นกำเนิดที่ฉีดเข้าไปจะไปหาเซลล์ที่มีการอักเสบหรือเสียหาย ตามตัวนำทางคือโปรตีนที่หลั่งออกมาจากระบบภูมิคุ้มกัน(Cytokines) เพื่อส่งสัญญาณว่ามีเซลล์ใดที่ต้องการการซ่อมแซม
MSCs จะเข้ามายังบริเวณที่เสียหายโดยการแบ่งตัวของมันเป็นเซลล์เฉพาะประเภทต่างๆ เพื่อช่วยในการรักษาตามแต่อวัยวะ และยังกระตุ้นให้เซลล์อื่นๆภายในร่างกายช่วยกันซ่อมแซมเซลล์ที่มีปัญหา ช่วยกระตุ้นระบบฮอร์โมน ทำให้เซลล์กลับมาทำงานได้เต็มที่ คืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว ทั้งอวัยวะภายในและภายนอก และกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติไม่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรง
ประโยชน์ของ Chrio Cells (MSCs)
Chrio cells (MSCs) ซึ่งอุดมด้วยสารอาหาร growth factor , cytokines สามารถเข้าไปซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ที่มีความแก่ เซลล์ที่มีความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพดี ทำให้เซลล์และอวัยวะต่างๆทำงานได้ มีประสิทธิภาพเหมือนครั้งยังเป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุลดความเสื่อมของเซลล์และสามารถช่วยแก้ไขได้ในหลายส่วนอวัยวะไม่ว่าจะเป็น
- การลดความเสื่อมของผิวหนังลดเลือนริ้วรอย
- ลดการอักเสบของหลอดเลือด ลดโอกาสการเป็นหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ลดสารอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) ของเซลล์และเนื้อเยื่อ
- ลดภาวะการเกิดโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์
- ลดการเกิดข้อเข่าเสื่อม ซ่อมแซมกระดูกและข้อต่อ
- ช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับและลำไส้ที่ถูกทำลาย
- ช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ฟื้นฟูระบบต่อมไร้ท่อทำให้ฮอร์โมนกลับมาทำงานได้ดีมากขึ้น กระดูกและข้อต่อดีขึ้น
- รักษาโรคทางพันธุกรรม โรคเลือด
MSCs ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?ใช้ปริมาณประมาณเท่าไหร่?ฉีดบ่อยแค่ไหน?
- 1.ฉีด stem cells เข้าผิวหน้าและลำคอ เพื่อให้หน้าอ่อนเยาว์
การฉีดstem cells ที่ผิวหน้าจะไปช่วยลดอายุของfibroblastซึ่งเป็นเซลล์ผิวหน้าให้เด็กลง การกระตุ้นให้มีความร้อนการอักเสบเล็กน้อยบนใบหน้าทำให้stem cells เข้าไปบำรุงเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น เช่นการทำ Hifu ulthera ก่อนฉีด stem cells
- เซลล์ผิวผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มความยืนหยุ่นให้ผิวหน้าทำให้หน้าเด็กลง
- ช่วยให้เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ลดผดผื่น ลดผิวแพ้ง่าย
- ช่วยลดฝ้ากระ ผิวที่ขึ้นใหม่คุณภาพดีขึ้น
- ช่วยลดลดริ้วรอยเล็กๆ (fine lines) ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น กระชับรูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใสขึ้น
ฉีด 6 เดือนครั้งหรือปีละครั้งใช้ stem cells ประมาณ 2-5 ล้านเซลล์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและการประเมินของแพทย์
- ฉีด stem cells เข้ารากผม เพื่อกระตุ้นการงอกของผม
การฉีดสเต็มเซลล์ที่รากผม จะช่วยกระตุ้นรากผมให้ได้รับสารอาหารต่างๆที่สมบูรณ์ทำให้มีผมใหม่งอกขึ้นได้ และทำให้ผมเก่าหลุดล่วงน้อยลง การฉีดสเต็มเซลล์จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการฉีดกระตุ้นด้วยPRP (ปั่นสกัดได้จากเลือด) ฉีด 6 เดือนครั้งหรือปีละ1ครั้ง ใช้ stem cells ประมาณ 5 ล้านเซลล์ กรณีที่ไม่มีรากผม แนะนำปลูกผมร่วมกับการฉีด stem cells
- 3.ฉีด stem cells เข้าข้อเข่า เพื่อลดข้อเข่าเสื่อม การปวดเข่า
การฉีด stem cells เข้าข้อเข่าจะช่วยลดอาการปวดข้อเข่าเพราะช่วยเพิ่มพื้นที่ของข้อเข่าซ่อมแซมกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่าได้ลดการอักเสบในข้อเข่าได้ดี
- เลือกฉีด stems cells ในคนไข้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการปวดเวลาเดิน เดินขึ้นบันได รู้สึกกระดูกเสียดสีกัน ถ้าเป็นข้อเข่าเสื่อมขั้น4 ที่ต้องผ่าตัดแล้ว ไม่แนะนำการักษาด้วย stem cells
- ก่อนจะฉีด stem cells เข้าข้อเข่าให้เช็คว่าเป็นข้อเข่าเสื่อมจริงไหมหรือปวดจากกล้ามเนื้อน่องตึงเพื่อจะรักษาได้ถูกจุด ปกติใช้ stem cellsประมาณข้างละ 5-10 ล้านเซลล์ ฉีดทุก 6 เดือน - 1 ปี
ขั้นตอนการฉีดเข่า
- ก่อนฉีดให้งดยาละลายลิ่มเลือด วิตามินอี omega3 นาน 7 วัน เพื่อลดการมีเลือดออกในข้อเข่า
- กินยา paracetamol ก่อนทำหัตถการ30 นาที
- ฉีดเซลล์ต้นกำเนิด ในตำแหน่งที่ถูกต้อง (สามารถให้การรักษาร่วมกับยาเพิ่มน้ำไขข้อได้ )
- หลังฉีดเสร็จให้หมุนเข่าเล็กน้อย นั่งพัก20นาที
- นัดติดตามอาการ 1 สัปดาห์
- 4.ฉีดเข้าเส้นเลือดดำ เพื่อลดการอักเสบทั่วร่างกาย
การฉีด stem cells เข้าเส้นเลือดดำ เป็นการดูแลเซลล์ทุกอวัยวะในร่างกายโดยสเต็มเซลล์จากวิ่งไปหาเซลล์ เนื้อเยื่อที่มีการอักเสบก่อนและจะทำการซ่อมแซมบริเวณนั้นก่อน จึงเป็นการฟื้นฟูเซลล์ที่อักเสบ สึกหรอได้โดยตรง แก้ปัญหาตับอักเสบ เส้นเลือดที่มีการอักเสบ ลำไส้อักเสบ ทำให้ร่างการได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกจุด รวมถึง เป็นการกระตุ้นระบบฮอร์โมนในร่างกายช่วย นอกจากอวัยวะภายในจะดีแล้วยังส่งผลถึงผิวพรรณภายนอก ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ลดผดผื่น ปริมาณ stem cells ที่ใช้ 30-50 ล้านเซลล์ ฉีดได้ทุก 1 ปี
*ก่อนฉีดสเต็มเซลล์ จำเป็นต้องมีการตรวจคัดกรองค่ามะเร็ง การล้างพิษด้วยvitamin therapy การล้างพิษโลหะหนักchelation ก่อนและปรับสมดุลย์ฮอร์โมนในร่างกายก่อน เพื่อให้การฉีด stem cells มีประสิทธิภาพสูงสุด
ขั้นตอนในการรับบริการฉีด MSCs เซลล์ต้นกำเนิด?
STEP 1 ปรึกษาแพทย์ ถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นฉีดบนผิวหน้า รากผม ข้อเข่าหรือเพื่อการย้อนวัยทั่วร่างกาย เพื่อกำหนดจำนวน stem cells เซลล์ ว่าใช้กี่ล้านเซลล์ ที่จะใช้สำหรับแต่ละตำแหน่ง และวางแผนการรักษาแบบอื่นร่วมต้นก่อน เพื่อให้ประสิทธิภาพของกราฉีด stem cells ดีที่สุด
เช่น การทำHifu ก่อนฉีด stem cells ที่ผิวหน้า /การตรวจเช็คค่ามะเร็งและระดับฮอร์โมนก่อนฉีด stems cells เข้าเส้นเลือด
STEP2 นัดวันและเวลาที่จะฉีด stem cells เพราะต้องสั่ง stem cell ให้ส่งตรงจากห้องLab โดยจะมาส่งก่อนเวลาฉีดไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้เซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่มากที่สุด ( Live stem cells )
STEP3 ถ้าเป็นการฉีดเข้าใบหน้าลำคอ แปะยาชา 15-30 นาที และการตุ้นผิวหน้าด้วย Hifu ทำให้ผิวเกิดความร้อน มี inflammation เล็กน้อย เพื่อให้ stem cells วิ่งไปในชั้นผิวที่ต้องการ
ถ้าเป็นการ*ฉีดเข้าข้อเข่า กินยา paracetamol ก่อน 30 นาที *ฉีดเข้าเส้นเลือด ต้องมีการตรวจเลือดและปรับฮอร์โมนมาก่อน
STEP4 ฉีดสเต็มเซลล์ ทั่วใบหน้า ลำคอ/รากผมใช้เวลา 15 นาที
ฉีดเข้าข่อเข่าใช้เวลา 15 นาที นั่งพัก 20 นาที
ฉีดเข้าเส้นเลือดใช้เวลาประมาณ1 ชั่วโมง นอนพัก 1 ชั่วโมง
*นัดติดตามผล 1 สัปดาห์* ฉีดทุก 6 เดือน– 1 ปี
หลังฉีด MSCs เซลล์ต้นกำเนิด เห็นผลเมื่อไหร่
การฉีดสเต็มเซลล์เน้นการซ่อมแซมเซลล์และทำให้เซลล์ในส่วนนั้นๆทำงานได้ดีขึ้น เช่นการลดการอักเสบ ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ดังนั้นการฉีดสเต็มเซลล์จึงไม่ได้เห็นผลลัพธ์ทันทีทันใด ไม่หมือนการฉีดเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ หรือการฉีดกลุ่มบำรุงผิวพวกhya ต่างๆ แต่จะค่อยๆเห็นผลลัพธ์ใน1-2 เดือนว่าผิวหน้าเด็กลง ผิวยืดหยุ่นมากขึ้น การฉีดรากผมช่วยกระตุ้นให้ผมค่อยๆขึ้น ชัดเจนเมื่อ1-2เดือน ปวดข้อเข่าจะดีขึ้นค่อนข้างเร็ว การฉีดเข้าเส้นเลือดดำจะรู้สึกสดชื่นขึ้น กระฉับการเฉงขึ้น
Chrio Cells (MSCs)มาจากไหน
ปัจจุบันนิยมใช้รกและสายสะดือของเด็กแรกเกิด ผ่านกระบวนการเพาะเลี้ยง การคัดแยกสิ่งปนเปื้อนและเชื้อโรคออก การเพิ่มจำนวนเซลล์ มีการคัดแยกเอาเฉพาะเซลล์ที่สมบูรณ์เท่านั้น
“ปัจจุบันมีห้องแลปในการเพาะ stem cell ในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปที่ต่างประเทศก็ได้รับคุณภาพเดียวกันแต่ราคาดีกว่ามาก หลักหมื่นก็สามารถ รักษาด้วยเซลล์บำบัดได้แล้วค่ะ”
Chrio Cells จะถูกส่งตรงจากห้องLab เพาะเชื้อที่มีมาตราฐาน ขนส่งมาตราฐานที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้เซลล์ยังมีชีวิตมากที่สุด จะมาพร้อมกับเอกสารที่ระบุจำนวนเซลล์ ขนาดเฉลี่ยของเซลล์ ค่าชีวเคมี bio marker ที่ดี และตรวจคัดกรองพวกโรคติดต่อต่างๆออกไป จึงทำให้มั่นใจปลอดภัยได้ค่ะ
การรักษาด้วย Chrio Cells ที่ดีคือต้องรักษาขณะที่เซลล์ยังมีชีวิตอยู่ฉีดเข้าไปในร่างกาย จะดีกว่าการใช้เซลล์ที่ตายแล้ว จึงควรส่งตรงจากแลปเพาะเชื้อก่อนคนไข้มารับการรักษาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ฉีดยิ่งเร็วยิ่งดี
นอกจากใช้จากรกแล้วยังสามารถได้จากเซลล์ไขมันเซลล์ไขกระดูกรากฟันของผู้ที่ต้องการใช้เซลล์ต้นกำเนิดแต่จะมีความสามารถในการแบ่งตัวการฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ได้น้อยกว่าเซลล์ต้นกำเนิดที่มาจากรกและสายสะดือเพราะมีอายุเซลล์มากกว่า
Chrio Cells (MSCs) อันตรายหรือไม่
การใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากร่างกายเราเอง (Allogenic Stem cells) หายคนอาจเป็นที่กังวลถึงความปลอดภัย ว่าร่างกายของเราจะสร้างภูมิต้านทาน เพื่อต่อต้านหรือไม่
เซลล์ต้นกำเนิดที่เพาะเลี้ยงจากเนื้อเยื่อรก สายสะดือ ของเด็กแรกเกิด จะมีจุดเด่นคือ
- เป็นส่วนที่มีระบบภูมิต้านทานต่ำ (จุดเชื่อมกับแม่ลูกจะมีระบบภูมิต้านทานน้อยกว่าส่วนอื่นของร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ภูมิคุ้มกันของแม่ทำลายเด็ก)
- มีการตรวจสุขภาพ เลือดของพ่อและแม่ที่เป็นเจ้าของรก ก่อนเข้าห้องเพาะเชื้อ
- ในกระบวนการเพาะเลี้ยงStem cell จะผ่านกระบวนการการนำระบบภูมิต้านทานออก จึงไม่มีปัญหาในการใช้เซลล์คนอื่น
ในปัจจุบัน พ่อแม่จำนวนมากได้จัดเก็บรกตอนคลอดลูกเพื่อนำมาเพาะเลี้ยงเป็นเซลล์ต้นกำเนิด ฝากไว้กับธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด เมื่อต้องการใช้เพื่อการชะลอวัย ฉีดให้หน้าเด็ก ฉีดลดข้อเข่าเสื่อมฉีดเพื่อซ่อมแซมอวัยวะภายในก็สามารถเบิกมาเพื่อฉีดบริเวณที่ต้องการดูแลได้
ฉีด stem cell ราคาเท่าไหร่
เซลล์ต้นกำเนิดมีหลากหลายเกรด มีลำดับของการเพาะเชื้อที่ราคาแตกต่างกันขึ้นกับขบวนการในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อรกและสายสะดือเพราะเป็นวิธีที่มีความละเอียดซับซ้อนตั้งแต่แหล่งที่มาของเนื้อเยื่อการคัดแยกสิ่งปนเปื้อนและเชื้อโรคออกการเพิ่มจำนวนเซลล์มีการคัดแยกเอาเฉพาะเซลล์ที่สมบูรณ์เท่านั้น
มาตราฐานการคัดเลือกstem cells ที่มีคุณภาพ
- มาตรฐาน GTP ในการคัดเลือกที่มาของเนื้อเยื่อเพาะเลี้ยง เพื่อให้ได้เนื้อเยื่อที่มีคุณภาพสูง ปราศจากเชื้อปนเปื้อน
- มาตรฐาน ATMP หรือ US-FDA สำหรับการผลิตเพื่อใช้ทางการแพทย์
- มาตรฐาน ISCT ในการตรวจคุณภาพของสเต็มเซลล์ที่สมบูรณ์ เหมาะสม
- มาตรฐาน ISO เพื่อรับรองความถูกต้อง ปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิต
- มาตรฐาน GMP ให้ทุกการผลิตมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน
และหากคุณสนใจในการฉีดสเต็มเซลล์ หรือยังมีข้อสงสัย สามารถ ทำการจองเพื่อเข้ามาปรึกษาคุณหมอนก แพทย์ผู้เชียวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย ประจำไครโอคลินิกได้เลย เนื่องจากในการฉีดสเต็มเซลล์ให้กับคนไข้ ทางคลินิกจะมีการให้คำแนะนำ พูดคุยและวางแผนก่อนเป็นอันดับแรก
มีคำถาม ไขข้อสงสัย?
เราดูแลทั้งเรื่องความงาม การปรับรูปหน้า การให้วิตามินเฉพาะบุคคล รวมถึงการตรวจสุขภาพเชิงชะลอวัย การปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงการใช้เซลล์บำบัด placenta และ stem cell
- 093 448 4000
- chrio.clinic@gmail.com
MSCs มีหลาหลายเกรดและราคาแตกต่างกัน ขึ้นกับขบวนการในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อรกและสายสะดือ เป็นวิธีที่มีความละเอียด ซับซ้อน ตั้งแต่แหล่งที่มาของเนื้อเยื่อ การคัดแยกสิ่งปนเปื้อนและเชื้อโรคออก การเพิ่มจำนวนเซลล์ มีการคัดแยกเอาเฉพาะเซลล์ที่สมบูรณ์เท่านั้น MSCs ที่ดีต้องเป็นเซลล์ยังยังมีชีวิตอยู่ตอนทำการฉีดเข้าร่างกาย/ใบหน้า/ข้อเข่า ไม่ใช่stem cell ที่ตายแล้ว ที่ทำให้ MSCs ในท้องตลาดมีราคาที่แตกต่างกันออกไป แต่ปัจจุบันมีห้องแลปในการเพาะสเต็มเซลล์เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปที่ต่างประเทศก็ได้รับคุณภาพเดียวกันแต่ราคาดีกว่ามาก หลักหมื่นก็สามารถ รักษาด้วยstem cell therapyได้แล้วค่ะ
ดังนั้นstem cellsจึงต้องได้จากห้องเพาะเชื้อที่มาตราฐาน การขนส่งมีมาตราฐานต้องควบคุมอุณหภูมิ มีการบอกจำนวนของstem cellsที่ยังมีชีวิตอยู่ ขนาดเฉลี่ยของเซลล์
Stem cells จะถูกส่งตรงจากห้องเพาะเลี้ยงสู่สถานที่ฉีดและควรฉีดเร็วที่สุดได้ยิ่งดี ไม่ควรเกิน3ชั่วโมง อุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมทำให้stem cellsเสื่อมสภาพและไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร