ฟื้นฟูจากภายในด้วยPlacenta Therapy เหมาะกับใครบ้าง
มารู้จักกับ Placenta Therapy แบบเจาะลึกกันค่ะ
Placenta คืออะไร ?
Placenta ที่ใช้ในวงการ wellness และ Anti-Aging หรือที่เราคุ้นเคยคือ รก เป็นส่วนที่เชื่อมต่อจากสะดือ ซึ่งมีส่วน สําคัญในการสร้างเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เพื่อให้ตัวอ่อนให้เจริญเติบโต ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด
ทางด้านการแพทย์ปัจจุบันจึงได้ทำการสกัดเป็ปไทด์ ที่สำคัญจากรกของเด็ก ผ่านกรรมวิธีในการแยกสารสำคัญต่างๆออกมาเพื่อใช้ในการฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในร่างกาย เพิ่มฮอร์โมน ระบบภูมิคุ้มกันต่างๆได้ และสามารถกระตุ้น stem cell ในร่างกายที่อยู่ในภาวะพักให้กลับมาซ่อมแซมเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพได้อีกด้วยจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
ทำไมเราต้องฟื้นฟูร่างกายด้วย Placenta ?
เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ระดับฮอร์โมน และการทำงานของเซลล์ อวัยวะต่างๆของร่างกาย ลดประสิทธิภาพลง อีกทั้งในปัจจุบันมีความเครียดที่เพิ่มขึ้น มลภาวะ เชื้อโรคต่างๆ และการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ กินอาหารที่ไม่ได้โภชนาการ นอนหลับไม่ดี ยิ่งการดื่มแอลกอฮอล์จัด เที่ยวดึก ทำให้แก่ก่อนวัย ร่างกายทรุดโทรมลง เนื่องจากเซลล์ใหม่เกิดทดแทนเซลล์ที่ตายและเสียหายไม่ทัน ซ่อมแซมตัวเองไม่ทัน จึงต้องหาตัวช่วย การนำ placenta เพื่อฟื้นฟูร่างกายจึงเป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้น เพราะปลอดภัย และช่วยได้หลายระบบ เห็นผลเป็นที่น่าพอใจ
Placenta เป็นสารประกอบจากรกที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆทั้ง กรดอะมิโน เปปไทด์ วิตามิน growth factor รวมถึง ฮอร์โมนต่างๆ จึงสามารถปรับสมดุล ลดอาการวัยทองและกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมในร่างกาย
การนำเซลล์ต้นกำเนิดจากรกมาใช้ประโยชน์เป็นที่นิยมเพราะประกอบไปด้วยสารเป็บไทด์ต่างๆมากกว่า 8,000 ชนิด/ เอนไซม์กว่า 1,400 ชนิด ซึ่งเป็นสารที่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะสร้างได้น้อยลง ทำให้เซลล์ต่างๆมีวัตถุดิบในการซ่อมแซม ฟื้นฟูร่างกาย
การฉีด placenta ช่วยกระตุ้นฮอร์โมน HSG, HPL, HCT, HCC, ACTH, DHEA และ เอนไซม์ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมันส่วนเกินและปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ ลดอาการวัยทองของผู้หญิง (Menopause) ร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง อารมณ์แปรปรวน และลดอาการวัยทองของผู้ชาย (Andropause) เช่นอารมณ์หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว ใจน้อย นอนไม่หลับ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ขี้ลืม
ประโยชน์ของ placenta therapy?
- 1.ช่วยกระตุ้นระบบฮอร์โมน เพิ่มฮอร์โมนเพศและฮอร์โมนอื่นๆ
อันตรายจากฮอร์โมนที่ลดลงที่น่ากลัวคือ? ความสำคัญของฮอร์โมนเพศไม่ได้หมายถึงความเป็นหนุ่มสาวและความรู้สึกทางเพศเท่านั้น แต่ยังออกฤทธิ์ช่วยเรื่องมวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก หลอดเลือดหัวใจ และการทำงานของสมอง ดังนั้นเมื่อฮอร์โมนลดลงจึงให้ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายลดลง
สังเกตุได้ว่าผู้หญิงเมื่อหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเพศลดลงยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้ง่าย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคกระดูกพรุน โรคเบาหวาน โรคหัวใจได้มากขึ้น ปัจจุบันการใช้placenta therapy เพิ่มระดับฮอร์โมนในร่างกายจึงเป็นเรื่องที่มีคนให้ความสนใจมากขึ้น
- ลดอาการวัยทองในผู้หญิง(Menopause) ร้อนวูบวาบ ช่องคลอดแห้ง อารมณ์แปรปรวน ทำให้มวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก หลอดเลือดหัวใจ และการทำงานของสมองดีขึ้น
- ลดอาการวัยทองของผู้ชาย (Andropause) เช่นอารมณ์หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว ใจน้อย นอนไม่หลับ ขี้ลืม เสื่อสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้น
- ช่วยการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ลดอาการอ่อนเพลีย
- กระตุ้นฮอร์โมน HCGเพิ่มประสิทธิภาพในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันส่วนเกิน ระบบเผาผลาญดีขึ้น
- ปรับสมดุลการทำงานของร่างกายทั้งระบบต่อมไร้ท่อและระบบเมตาบอลิก ช่วยอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดในสมองดีขึ้น เช่น ไมเกรนอาการวิงเวียนบ้านหมุน
- ทำให้การทำงานของระบบชีวเคมีในร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- 2. กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว
Placenta มีการกระตุ้นสร้าง FGF ( Fibroblast growth factor ) และ EGF ( Epithelium growth factor ) เป็นจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ในชั้นหนังแท้จะกระตุ้นการผลิต collagen elastin และ กรดไฮยาลูโรนิค ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่เสียหายให้กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ พร้อมทั้งมีการยับยั้งเอนไซน์ ไทรโรซิเนส ( tyrosinase ) ที่เป็นตัวก่อเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้ากระ
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวกลับเป็นเด็ก ผิวยืดหยุ่น ผิวเนียนนุ่มลื่น กระชับรูขุมขน ผิววาวขึ้น ไม่แห้งกร้าน สร้างความกระชับให้กับผิวหน้าดูเต่งตึงขึ้น เพราะไปช่วยเพิ่มการทำงานของfibroblast ให้เซลล์ผิวเด็กลง
- ลดฝ้ากระ จุดด่างดำ รวมทั้งปรับเซลล์สีผิวให้เรียบเนียนดูสม่ำเสมอ ลดการสร้างเม็ดสีผิว melanin ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่เป็นจุดรอยด่างดำ จากการยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง ซ่อมแซมเซลล์ ลดการอักเสบ กระตุ้นระบบน้ำเหลืองและระบบไหลเวียนโลหิต ปรับสมดุลเซลล์ภายใต้ผิว
- ลดริ้วรอยแห่งวัย เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ลดริ้วรอยเล็กๆรอบดวงตา มุมปาก รอบปาก ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยฟื้นฟูความเสื่อมของสภาพผิว จากแสงแดด มลภาวะ สารเคมี และปัญหาเรื้อรังระดับเซลล์ ให้ได้รับการฟื้นฟูบำรุงเนื้อเยื่อ คืนสมดุลให้กับเซลล์ผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว
- ลดรอยแผลเป็น แผลนูน keloid ช่วยแก้หลุมสิวให้ตื้นขึ้น เร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ กระตุ้นการสมานเซลล์ผิวอันเกิดจากแผลต่างๆ รวมทั้งแผลเป็นได้ดีขึ้น
- 3.ช่วยลดการอักเสบ ในเนื้อเยื่อและอวัยวะ
Placenta ที่เข้าไปในเนื้อเยื่อจะช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟูเนื้อเยื่อต่างๆให้กลับมาทำงานดีขึ้นกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายส่วนต่างๆ ได้รับโลหิต สารอาหาร และออกซิเจนเพิ่มขึ้น ผิวพรรณจะสดใส เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอย
- 4.ฟื้นฟูสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน
ฟื้นฟูระบบภูมิต้านทานเพื่อป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune Diseases) เช่น รูห์มาตอยด์ โรคพุ่มพวง และกลุ่มภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเอดส์ วัณโรค ลดอาการแทรกซ้อนจากการใช้ยาสเตียรอยด์ เคมีบำบัด และรังสีรักษา
ฟื้นฟูจากภายในด้วย Placenta Therapy เหมาะกับใครบ้าง?
- ที่ต้องการดูแลสุขภาพภายใน อายุเกิน40ปี แม้ยังไม่มีอาการ เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนไม่ให้ลดลงมาก คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว ไม่ต้องรอให้ประจำเดือนหมด หรือรอให้มีอาการวัยทอง ก่อนจึงค่อยรักษาเพราะระดับฮอร์โมนเริ่มต่ำลงตั้งแต่เราอายุเกิน 25 ปี และลดลงอีกก่อนประจำเดือนหมด 5 - 10 ปี จึงควรรักษาด้วยplacenta therapy ควบคู่กันไป
- หญิงและผู้ชายที่มีอาการวัยทองจำเป็นต้องรับการรักษาอย่างยิ่ง แสดงว่ามีระดับฮอร์โมนที่ต่ำมาก จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกกลางคืนนอนหลับไม่สนิท อ่อนเพลียไม่ค่อยสดชื่นอารมณ์แปรปรวนซึมเศร้าหงุดหงิดง่ายไม่มีสมาธิ ผิวแห้งผมร่วงหลงลืมง่ายและกล้ามเนื้อเริ่มฝ่อลง
- มีภาวะมวลกระดูกบางหรือกระดูกพรุน มวลกล้ามเนื้อน้อยลง การกระตุ้นฮอร์โมนเพศช่วยให้มวลกระดูกดีขึ้น รักษาควบคู่กับการใช้วิตามินดี3
- มีภาวะเสี่ยงระบบหลอดเลือดหัวใจ สมองเสื่อม เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน การทำplacenta therapy ช่วยระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Circulation System) การทำให้ร่างกายส่วนต่างๆได้รับโลหิต สารอาหาร และออกซิเจนเพิ่มขึ้น การแข็งตัวของเส้นเลือดลดลง เมื่อมีเลือดไหลเวียนไปสมองมากขึ้น อาการเสียงดังในหูจะหายไป ปวดศีรษะข้างเดียวปวดไมเกรมจะทุเลา ลดอาการวิงเวียน และยังได้ประโยชน์กับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาการแทรกซ้อนอีกด้วย
- คนที่ต้องการเพิ่มระบบภูมิต้านทานเพื่อป้องกันโรคautoimmuneต่างๆ โรคหลายชนิดเกิดจากภูมิคุ้มกันตนเองบกพร่อง (Autoimmune Diseases) คือระบบภูมิต้านทานของตนเองกลับหันมาโจมตีตัวเองแทนที่จะไปปราบปรามผู้บุกรุก เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ โรคลูปัส (โรคพุ่มพวง) โรคที่เกิดเฉพาะภูมิต้านทานต่ำ เช่น โรคเริม วัณโรค สภาวะอันเกิดจากการใช้ยาสเตียรอยด์ เป็นต้น
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวพรรณดี นุ่มลื่น ลดริ้วรอย ลดฝ้ากระ ลดรอยดำจากสิว รอยแผลเป็นคีรอยด์ ( Keloid ) เนื่องจากสารสกัดจาก placenta มีการกระตุ้นสร้าง FGF ( Fibroblast growth factor ) และ EGF ( Epithelium growth factor ) เป็นจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ในชั้นหนังแท้จะกระตุ้นการผลิต collagen elastin และ กรดไฮยาลูโรนิค ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวที่เสียหายให้กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ พร้อมทั้งมีการยับยั้งเอนไซน์ ไทรโรซิเนส ( tyrosinase ) ที่เป็นตัวก่อเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดฝ้ากระ
Placenta มาจากไหน?มีกี่แบบ?
- Placenta สำเร็จที่สกัดจากรกที่บรรจุในแอมป์ ปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อ ที่นำเข้าจากเกาหลี ญี่ปุ่น นิยมให้กันอย่างแพร่หลาย แต่อาจจะต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพราะโปรตีนจะสลายไปได้ง่าย
- Placenta Extract ที่ออกมาจากห้องLabปฎิบัติการ มีกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานสูง เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกรกจากหญิงมีครรภ์ที่ได้ผ่านการตรวจสุขภาพทั้งก่อน ระหว่าง และหลังตั้งครรภ์ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคทางกรรมพันธุ์และโรคติดเชื้อต่างๆ รกที่ได้หลังคลอดโดยทันทีจะถูกนำไปแช่แข็งในไนโตรเจนเหลว จากนั้นจะนำมาแยกเซลล์สกัดเพื่อให้ไดเป็ปไทด์คุณภาพดี ที่อุดมไปด้วยฮอร์โมน growth factor ต่างๆ กระบวนการคัดแยกและเก็บรักษาอยู่ในอุณหภูมิที่ได้ -20ถึง0องศา เพื่อให้คงคุณค่าของโปรตีนไว้ไม่ให้เสื่อม ถ้าอยู่ในอุณหภูมิห้องโปรตีนจะสลายได้ง่าย
ทำไม Placenta Extract ถึงดีกว่าplacentaสำเร็จรูป?
Placenta Extract ที่สกัดจากเนื้อเยื่อรกโดยตรงและออกจากห้องปฎิบัติการจะมีประสิทธิภาพดีกว่าและสามารถเลือกองค์ประกอบของ placentaได้ด้วย ซึ่งเป็นการสกัดเคสต่อเคส สามารถบอกความต้องการหลักของลูกค้าได้เช่นเน้นเสริมฮอร์โมนเพศชาย เพศหญิง เน้นเรื่องการกระตุ้นเซลล์ผิว หรือการขยายหลอดเลือด ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า ตรงจุดมากกว่า และไม่ใส่สารกันเสียจึงปลอดภัยกว่า
Placenta therapy ดีไหม ?ทำแล้วเห็นผลอย่างไร?
หลายคนหลังจากได้รับรักษาด้วย Placenta therapy จะรู้สึกสดชื่นขึ้น มีเรี่ยวมีแรงขึ้น นอนหลับดีขึ้น อารมณ์ดี ไม่ค่อยหงุดหงิด มั่นใจในตัวเองมากขึ้น มีความสุข กระฉับกระเฉงขึ้น สังเกตเห็นว่าผิวเนียนนุ่มขึ้น ไม่แห้งเหมือนแต่ก่อน
อาการวัยทองลดลงร้อนเช่น วูบวาบ ช่องคลอดแห้ง อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ขี้ลืม รู้สึกว่าเมื่อออกกำลังกายแล้วกล้ามขึ้นง่ายขึ้น พุงยุบ
ขั้นตอนการทำ Placenta therapy ฉีดตรงไหนได้บ้าง ?ทำได้บ่อยแค่ไหน?
- 1.ฉีดผิวหน้า
placenta สำหรับฉีดผิวหน้า จะเน้นสารสกัดที่ช่วยฟื้นฟู fibroblast โดยเฉพาะเพื่อให้เซลล์ใบหน้าฟื้นฟูเด็กลง สมบูรณ์ขึ้น เพื่อให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินออกมาได้เพิ่ม ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ ลดฝ้ากรุ ลดริ้วรอย
- 2.ฉีดทีกล้ามเนื้อสะโพก
Placenta เผื่อกระตุ้นฮอร์โมน เพื่อฟื้นฟูทั่วทั้งร่างกาย สามารถระบุเพศที่ต้องการได้ เพื่อให้ได้สารสกัดที่กระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย/หญิง ไปโดยเฉพาะ
การฉีด placenta เข้าที่สะโพก จำเป็นต้องตรวจคัดกรองมะเร็งและปรับระดับฮอร์โมนในร่างกายเพื่อให้placenta ทำงานได้มีประสิทธิภาพ
Placenta therapy ไม่สามารถฉีดเข้าเส้นเลือดได้เพราะเป็นสารสกัดจากโปรตีนที่มีโมเลกุลค่อนข้างใหญ่ อาจทำให้เกิดการแพ้ได้
Placenta therapy ทำได้บ่อยแค่ไหน?
การรับplacenta therapy โดยมากแนะนำให้ฉีด เดือนละครั้ง นาน 4-6 เดือน
และสามารถฉีดกระตุ้นได้ทุก6เดือน-1ปี โดยไม่มีสารตกค้าง
ขั้นตอนในการรับบริการฉีด Placenta?
- STEP 1
ปรึกษาแพทย์ ถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นฉีดบนผิวหน้า ฉีดเข้าร่างกาย เพื่อ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการรับการฉีดplacenta วางแผนการรักษาแบบอื่นร่วมต้นก่อน เพื่อให้ประสิทธิภาพดีที่สุด
เช่นการทำHifu ก่อนฉีดplacenta ที่ผิวหน้า /การตรวจเช็คค่ามะเร็งและระดับฮอร์โมนก่อนฉีดplacentaเข้ากล้ามเนื้อสะโพก
- STEP 2
นัดวันและเวลาที่จะฉีดplacentaเนื่องจาก ต้องส่งมาจากห้องปฏิบัติการโดยต้องควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่0 ถึง -20 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไม่ให้อนุพันธ์ของโปรตีนเสื่อมสลายไประหว่างการขนส่ง
- STEP 3
ถ้าเป็นการฉีดเข้าใบหน้าลำคอ แปะยาชา 15-30นาที และการตุ้นผิวหน้าด้วยHifu ทำให้ผิวเกิดความร้อน มีinflammationเล็กน้อย
ฉีดเข้าร่างกายทางสะโพก ต้องมีการตรวจเลือดและปรับฮอร์โมนมาก่อน
- STEP 4
ฉีด Placenta ทั่วใบหน้า ลำคอ ใช้เวลา 15 นาที
ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สะโพก ใช้เวลา 15 นาที
นัดติดตามผล 1 สัปดาห์ ฉีดทุกเดือนต่อเนื่อง4-6 เดือน
สนใจปรึกษา ขอคำแนะนำโดยตรงจากคุณหมอนก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและชะลอวัย
มีคำถาม ไขข้อสงสัย?
เราดูแลทั้งเรื่องความงาม การปรับรูปหน้า การให้วิตามินเฉพาะบุคคล รวมถึงการตรวจสุขภาพเชิงชะลอวัย การปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงการใช้เซลล์บำบัด placenta และ stem cell
- 093 448 4000
- chrio.clinic@gmail.com