โปรแกรมรักษาหลุมสิว
หลุมสิวเกิดจากอะไร ?
ส่วนมาก มักเกิดจากการอักเสบของสิว ที่รักษาไม่ถูกวิธี ทำให้กินลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ทำให้คอลลาเจน (Collagen)ถูกทำลาย เมื่อการอักเสบหายไป การสร้างคอลลาเจนขึ้นมาไม่สมบูรณ์ จนในที่สุดก็กลายเป็นพังผืด เกิดเป็นหลุมบนผิวหน้า
ประเภทของหลุมสิว
• ROLLING SCAR
หลุมสิวแบบคลื่น มีความโค้ง เป็นแอ่งเว้าลงไปและตื้น เป็นหลุมสิวที่รักษาได้ง่ายกว่าประเภทอื่น
BOX SCAR
หลุมสิวแบบกล่อง หลุมสิวประเภทนี้จะมีลักษณะเหลี่ยม กลมรี หรือเป็นบ่อ และมองเห็นขอบของหลุมสิวได้ชัดเจน รักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี
ICE PICK SCAR
หลุมสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมลึก ปากแผลแคบ ก้นของหลุมสิวจะ แหลมคล้ายๆ ตัว V เป็นหลุมสิวที่รักษายากที่สุด
รักษาหลุมสิวยังไงได้บ้าง?
เป็นแผลที่รักษายากมากที่สุด ถ้าเทียบกับปัญหาผิวแบบอื่น อาจต้องใช้เวลานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความลึก และชนิดของหลุมสิว ต้องอาศัยความต่อเนื่องในการรักษา ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาแผลจากหลุมสิว ดังนี้
1.การตัดพังผืด (Subcision)
หลุมสิวส่วนมากมักจะมีผังผืดยึดไว้ข้างใต้ ทำให้ยิ่งรั้งให้ผิวด้านบนบุ๋มลง เกิดเป็นหลุมสิวที่แก้ไขยาก การตัดผังผืดด้วยเข็มพิเศษ เพื่อตัดพังผืดที่รั้งผิวไว้ ซึ่งวิธีนี้มักได้ผลดีในแผลหลุมสิวประเภท Rolling Scar นิยมใช้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่นเช่นDermapen ,การฉีดยาบำรุง
2.การฉีดสารบำรุงเพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
ทำควบคู่กับการรักษาวิธีอื่นๆ เพื่อช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นการทำ PRP , HYA, Made Collagen เพื่อให้ผิวใหม่ขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ
3.เลเซอร์ (Laser)
เป็นวิธีการรักษาที่ให้ประสิทธิภาพในการรักษาสูง ต้องทำต่อเนื่องเช่นกัน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ส่งผลให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ โดยเลเซอร์ที่นิยมนำมาใช้รักษาจะมี 2 แบบ คือ Erbium Yag laser หรือเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่น 2,490 nm ส่วนอีกแบบคือ เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) หรือเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่น 10,600 nm ต้องเลี่ยงแดดหลังทำlaser
4. การกรอผิวด้วยเข็ม (Dermapen )
คือการใช้เข็มที่ลงไปตัดผังผืดใต้หลุมสิวที่ปรับระดับความลึกตามบริเวณของใบหน้า/ความลึกของหลุมสิว จะทำให้เกิดแผลเล็กๆบนใบหน้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่ เซลล์ผิวหน้าจะสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ คือจะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นของผิวหนังมากขึ้น (หน้าเด้ง – ผิวเด้ง)ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น แต่งหน้าติดดีขึ้น
5.กรอผิวด้วยเกล็ดอัญมญี (Dermabrasion) +ผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling)
ใช้เครื่องมือกรอผิวหนังชั้นกำพร้าออก เพื่อเผยผิวใหม่ที่ร่างกายสร้างมาแทนที่กระตุ้นคอลลาเจน แล้วนำยาผลัดผิวเป็นกรดอ่อนๆ เป็นการเร่งเซลล์ผิวงที่ตายแล้วให้หลุดออก และกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา ถ้ามีหลุมสิวการใช้น้ำยาผลัดผิวอ่อนๆช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ สามารถทำร่วมกับการผลัดผิวได้
(อ่านเพิ่มเติมlink ผลัดเซลล์ผิว)
6. ใช้ยากลุ่ม อนุพันธ์วิตามินเอหรือกรดวิตามินเอ
เป็นกรดที่มีความเข้มข้นสูงแนะนำให้อยู่ในการดูแลของแพทย์ แต่ถ้าความเข้มข้นน้อยสามารถกลับไปทาเองที่บ้านได้ วิธีนี้ได้ผลดีโดยเฉพาะแผลหลุมสิวประเภท Ice pick scars
- ตัวยาที่มีส่วนผสม Retinoids (วิตามินเอ) มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุมสิวดูตื้นและเรียบเนียนขึ้น เช่น Retin-A, Retacnyl, Acnetin-A
- ส่วนผสม AHA และ BHA มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อเติมหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น
การรักษาหลุมสิว วิธีนี้ควรห่างกัน 3-4 สัปดาห์ และทำติดต่อกัน 5 ครั้ง จะช่วยทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น
7. การผ่าตัด (Excision)
เป็นวิธีการรรักษาหลุมสิวที่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเอาส่วนที่เป็นหลุมสิวผังผทดออก แล้วเย็บเข้าหากัน นิยมใช้รักษากับแผลหลุมสิวประเภท Ice-pick Scars และ Boxcar Scar
8. การฉีดสารเติมเต็มหรือฉีดฟิลเลอร์
เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุโดยการฉีดสารเติมเต็มลงบนหลุมสิวเพื่อให้เรียบเนียน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเร่งด่วนในการรักษา
5 ขั้นตอน การรักษาหลุมสิว
ด้วยโปรแกรมACNE SCARS
- ขั้นตอนที่ 1 แป๊ะยาชา
แปะยาชาเป็นขั้นตอนแรก เป็นยาชาเกรดพรีเมี่ยม ชาได้ไว ลงลึกถึงใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อจะเจ็บน้อยที่สุด ยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 15-20 นาที
- ขั้นตอนที่ 2 ตัดผังผืดใต้ผิว
ใช้เข็มพิเศษตัดผังผืดที่อยู่ใต้หลุมสิว เพื่อตัดผังผืดที่รั้งแผลทำให้เกิดหลุมสิว และเพื่อให้ ร่างกายมีบาดแผลเล็กๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ดี
- ขั้นตอนที่ 3 ใช้เครื่อง DERMAPEN
การกรอผิวด้วยเข็มขนาดเล็กๆที่เรียกว่า Dermapen สามารถปรับระดับความตื้น ลึกตามความลึกของหลุมสิว และในแต่ละปรับตามบริเวณของใบหน้า จะทำให้เกิดแผลเล็กๆบนใบหน้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่ เซลล์ผิวหน้าจะสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ คือจะช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นของผิวหนังมากขึ้น (หน้าเด้ง – ผิวเด้ง)ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น แต่งหน้าติดดีขึ้น
- ขั้นตอนที่ 4 ฉีด PRP ฟื้นฟูผิวหน้า
ฉีดสารสกัดที่อุดมด้วยเกล็ดเลือด และgrowth factor ลงบนผิวหน้า เพื่อช่วยให้เซลล์ที่มีบาดแผลเล็กๆที่กำลังสร้างเซลล์ผิวใหม่สามารถซ่อมแซมเซลล์ผิวได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ให้หลุมสิวตื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ขั้นตอนที่ 5 ผลักวิตามินซีเข้มข้นด้วย CRYO เย็น
ลงวิตามินซีเข้มข้นลงลึกถึงระดับliposome ด้วยเครื่องCryo เย็น เข้าลงลึกสู่ชั้นผิว ช่วยให้ผ่อนคลายใบหน้า
การป้องกันการเกิดหลุมสิว
- 1. เมื่อมีสิวอักเสบ ไม่บีบ แกะสิว ด้วยมือ เพราะมีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว สิวยิ่งใหญ่ก็มีโอกาสที่จะทิ้งหลุมสิวได้มากขึ้น
- 2. เลี่ยงอาหารประเภททอด ที่มีไขมันสูง ทำให้ผิวเกิดการอุด ดื่มน้ำมากๆ เน้นผัก ผลไม้
- 3. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางก่อนล้างหน้าและใช้ตัวยาลดความมันของใบหน้าจะช่วยลดสิวและการเกิดหลุมสิวได้
Promotion! Package ยอดฮิต
โปรฯ ราคาพิเศษ แพคเกจฟื้นฟูหลุมสิว ผิวเรียบเนียนอีกครั้ง
มีคำถาม ไขข้อสงสัย?
เราดูแลทั้งเรื่องความงาม การปรับรูปหน้า การให้วิตามินเฉพาะบุคคล รวมถึงการตรวจสุขภาพเชิงชะลอวัย การปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงการใช้เซลล์บำบัด placenta และ stem cell
- 093 448 4000
- chrio.clinic@gmail.com